ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

การจับภาพวัตถุ Object Detection ด้วย yolo 11

 การจับภาพวัตถุ Object Detection ด้วย yolo 11  การจับภาพวัตถุ Object Detection เป็นวิธีการหนึ่งของศาสตร์ Computer Vision ในแขนงวิทยาการคอมพิวเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อทำให้ Computer สามารถที่จะเรียนรู้วัตถุได้เหมือนมนุษย์ เปรียบเหมือนการสร้างดวงตาให้กับคอมพิวเตอร์ เกิดขึ้นใน ค.ศ 1950 เพื่อจัดเก็บรูปทรงต่างๆ อย่างง่ายๆ ของวัตถุ  เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม โดยวิธีการหามุมและเส้นขอบของวัตถุ ต่อมาพัฒนามาเป็น OCR Optical Character Recognition สำหรับอ่านตัวอักษร ต่อได้พัฒนาเป็นการอัพโหลดรูปภาพเพื่ออ่าน วิเคราะห์ แยกแยะ จำแนก จัดกลุ่ม จนปัจจุบนสามารถที่จะทำการจับวัตถุได้แบบเรียลไทม์  หลักการจับภาวัตถุ Object Detection  ส่วนใหญ่การจับวัตถุจะเป็นการวาดกรอบสีเหลี่ยมของวัตถุ และเทสีเข้าไป เพิ่อสะดวกในการนำไปใช้งานต่อไป เช่น การนับ การตรวจจับวัตถุผิดปกติ โดยการเปรียบเทียบกับข้อมูลรูปภาพที่มีอยู่  การนำไปใช้ประโยชน์ 1. การตรวจนับสินค้า วัตถุ หรือสิ่งที่เราสนใจ อาจะเป็นคน ฝูงนก 2. ตรวจสอบสัมภาระ ก่อนหรือหลัง 3. การบรรทุกน้ำหนักเกิน  4. การตรวจความหนาแน่นของการจารจรในพื้นที่ ช่วงวิกฤติ  5. การตร
โพสต์ล่าสุด

การเปรียบเทียบความแตกแต่างระหว่าง Server-side Rendering กับ Client-side Rendering สำหรับเว็บไซต์ในปัจจุบัน

วัตถุประสงค์ 1. เปรียบเทียบประสิทธิภาพระหว่าง ได้แก่ อุปกรณ์เครือข่าย ความเร็วอินเทอร์เน็ต ขการพัฒนาและความซับซ้อน Server-side Rendering กับ Client-side Rendering สำหรับเว็บไซต์ในปัจจุบัน

การแก้ไขปัญหาคอนเทนต์เหมือนกัน Duplicate Content

 การแก้ปัญหาคอนเทนต์เหมือนกันหรือลักษณะของคอนเทนต์ที่ซ้ำกัน (Duplicate Content) สามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายของคุณ นี่คือขั้นตอนเบื้องต้นในการจัดการปัญหาคอนเทนต์ซ้ำกัน: 1. สร้างเนื้อหาใหม่และแตกต่าง    - ปรับแต่งเนื้อหาให้มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การเพิ่มข้อมูลเชิงลึก เปลี่ยนมุมมอง หรือเสริมความคิดเห็นส่วนตัว    - ใช้ตัวอย่างหรือกรณีศึกษาที่ต่างออกไปเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับเนื้อหาเดิม 2. ใช้เครื่องมือ Rewrite หรือ Paraphrase    - หากจำเป็นต้องใช้คอนเทนต์เดิม ลองใช้เครื่องมือปรับเปลี่ยนหรือเขียนใหม่ เพื่อให้ภาษาที่ใช้แตกต่างกันแต่ยังคงเนื้อหาสาระเดิม    - หลีกเลี่ยงการคัดลอกข้อความแบบตรง ๆ 3. Canonical Tags สำหรับ SEO    - หากคอนเทนต์ซ้ำปรากฏในหลาย ๆ หน้าบนเว็บไซต์ การใช้แท็ก canonical จะช่วยระบุหน้าที่เป็นต้นฉบับและช่วยจัดการ SEO ได้ดีขึ้น    - ทำให้เสิร์ชเอนจิ้นเข้าใจว่าหน้าไหนเป็นหน้าหลักที่ต้องจัดอันดับ 4. รวมเนื้อหา (Content Consolidation)    - หากมีหลายหน้าที่มีคอนเทนต์คล้ายกันมาก อาจพิจารณารวมหน้าหลายหน้าเข้าด้วยกันเพื่อสร้างหน้าเดียวที่มีเนื้อหาครบ

github error: Pushing to Git returning Error Code 403 fatal

github error: Pushing to Git returning Error Code 403 fatal --create repositories project  git clone https://github.com/useranme/repositories.git --config github username email  git config --global user.email "your_github_email_@email.com" git config --global user.name "Your full name"Start github  create a new repository on the command line echo "# App" >> README.md git init git add README.md git commit -m "first commit" git branch -M main git remote add origin https://github.com/username/App.git git push -u origin main push an existing repository from the command line git remote add origin https://github.com/username/App.git git branch -M main git push -u origin main Error github Code  Error Code 403  For Windows you can find the keys here: control panel > user accounts > credential manager > Windows credentials > Generic credentials Next, remove the Github keys. For macOS you can fine the keys here; 1-In Finder, search for th

10 ข้อเสียของปัญญาประดิษฐ์ ที่มีต่อเรา

 แน่นอน นี่คือ 10 ข้อเกี่ยวกับอันตรายจากการใช้ AI: 1. **การสูญเสียงาน**: AI สามารถทำงานบางอย่างได้ดีกว่ามนุษย์ ทำให้เกิดความกังวลว่ามนุษย์จะสูญเสียงานที่ทำอยู่ 2. **ความเป็นส่วนตัว**: AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก อาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวหากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม 3. **การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง**: หาก AI ถูกฝึกด้วยข้อมูลที่มีความเอนเอียงหรือไม่ครบถ้วน อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด 4. **การใช้งานในทางที่ผิด**: AI สามารถถูกใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอม การจารกรรม หรือการโจมตีทางไซเบอร์ 5. **ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย**: AI ที่ควบคุมระบบสำคัญๆ เช่น ระบบการจราจร หรือระบบการแพทย์ อาจก่อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงหากเกิดข้อผิดพลาด 6. **การพึ่งพามากเกินไป**: การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะสำคัญและการคิดอย่างวิจารณญาณ 7. **ความไม่เป็นธรรม**: AI อาจทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม เช่น การเลือกปฏิบัติหากมีการฝึกด้วยข้อมูลที่มีความเอนเอียง 8. **ความปลอดภัยทางกายภาพ**: ระบบ AI ในการควบคุมยานพาหนะหรือเครื่องจักร อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุหากเกิดข้อผิดพลาด 9. **การเปลี่ยนแป

อันตรายจากการใช้ AI มีอะไร้าง

 การใช้ AI มีข้อดีมากมาย แต่ก็มีอันตรายและความเสี่ยงที่ต้องพิจารณา ได้แก่: 1. **การสูญเสียงาน**: AI สามารถทำงานบางอย่างได้ดีกว่ามนุษย์ ทำให้เกิดความกังวลว่ามนุษย์จะสูญเสียงานที่ทำอยู่ 2. **ความเป็นส่วนตัว**: AI ที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก อาจเป็นภัยต่อความเป็นส่วนตัวหากไม่ได้รับการควบคุมอย่างเหมาะสม 3. **การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง**: หาก AI ถูกฝึกด้วยข้อมูลที่มีความเอนเอียงหรือไม่ครบถ้วน อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด 4. **การใช้งานในทางที่ผิด**: AI สามารถถูกใช้ในทางที่ผิด เช่น การสร้างข่าวปลอม การจารกรรม หรือการโจมตีทางไซเบอร์ 5. **ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย**: AI ที่ควบคุมระบบสำคัญๆ เช่น ระบบการจราจร หรือระบบการแพทย์ อาจก่อให้เกิดอันตรายใหญ่หลวงหากเกิดข้อผิดพลาด 6. **การพึ่งพามากเกินไป**: การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจทำให้มนุษย์สูญเสียทักษะสำคัญและการคิดอย่างวิจารณญาณ การใช้ AI อย่างมีความรับผิดชอบและมีการควบคุมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการลดความเสี่ยงและอันตรายเหล่านี้. บทความจาก chatgpt