ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Dash framewok for Python แนวคิด การพัฒนา การประยุกต์ใช้งาน

 Dash Framework for Python แนวคิด การพัฒนา สร้าง ใช้งาน การประยุกต์ใช้งานงานวิเคราะห์ข้อมูล ให้ขึ้น

  • บทนำ
  • แนวคิดของ Dash Framwork for python 
  • องค์ประกอบของ Dash Framwork for python
  • การพัฒนาบน Dash Framework for python
  • การสร้างแดชบอร์ด้วย Dash Framwork for python
  • บทสรุปของ Dash Framwork for python




บทนำ

ในปัจจุบันนี้ การใช้ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูล การจัดการข้อมูลหรือการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่างๆนั้น ก่อให้เกิดผลการตัดสินใจที่มีความถูกต้องและใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงในปัจจุบัน ซึ่งมีการนำ Dashboard มาใช้ เพื่อนำเสนอข้อมูลให้อยู่ในหน้าจอที่สรุปข้อมูลทุกอย่าง จากแหล่งต่างๆ มาให้อยู่ในหน้าจอเดียว เพื่อให้ได้ดูข้อมูลแล้วเข้าใจ และสามารถตัดสินใจได้ในทันท่วงที่ 

ดังนั้น การสร้าง Dashboard  เราจึงจำเป็นจะต้องมีเครื่องมือที่สามารถนำมาประยุกต์และใช้งานในด้านการจัดการข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และการนำเสนอข้อมูล  Dash Framework for python จึงเป็นเฟรมเวิร์ก (framework) หนึ่ง ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อมาช่วยในการนำเสนอข้อมูลด้วยกราฟ ซึ่ง Dash Framwork มีแนวคิดที่ใช้ 3 เทคโนโลยี ผนวกเข้าดวยกัน ได้แก่ Flask ReactJS และ PlotlyJS  ที่สามารถสร้างเว็บแอปพลิเคชันที่เน้นการแสดงผลข้อมูลเชิงวิเคราะห์ โดยใช้ Python เป็นหลัก สำหรับผู้ที่ไม่ต้องมีความรู้ด้านการพัฒนาเว็บอย่างลึกซึ้งก็สามารถเรียนรู้และใช้งานได้ แนวคิดหลักคือการใช้ Python เพื่อสร้างส่วนติดต่อผู้ใช้  User Interface (UI) และ Logic ของการพัฒนาของเว็บแอปพลิเคชัน ทำให้ Dash Framework for python เหมาะสำหรับ Data Science นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและ Data Analytic นักวิเคราะห์ในการสร้างแดชบอร์ดแบบโต้ตอบได้อย่างรวดเร็ว 


แนวคิดของ Dash Framwork for python 

แนวคิดหลักของ Dash Framwork for python เป็นการนำองค์ความรู้และการพัฒนา 3 เทคโนโลยีหลัก อันได้แก่ การพัฒนาเว็บแอพลิเคชั่น Web Appliaction การวิเคราะห์ข้อมูล Data Analysis การสร้างกราฟแผนภูมิ และการสร้างภาพด้วยข้อมูล Data Visuallization

การรวมเทคโนโลยี: Dash ประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก:

  1. Flask: จัดการฟังก์ชันของเว็บเซิร์ฟเวอร์
  2. React.js: สร้างส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) และแสดงผลบนเว็บ
  3. Plotly.js: สร้างกราฟและแผนภูมิแบบอินเทอร์แอคทีฟ
  4. Seaborn : สำหรับทำ Data Visualization การสร้างภาพข้อมูล
  5. pandas : สำหรับวิเคราะห์และการจัดการข้อมูล Data Preparatio Data Analytic and Data Tranform 
  6. matplotlib : สำหรับการโต้ตอบกับข้อมูล interactive visualizations


สิ่งที่คาดหวังจากการใช้งาน Dash Framwork for python 

  • แอปพลิเคชันเชิงวิเคราะห์ (DAA: Data Analysic Application) ซึ่ง Dash Framwork for python  ถูกออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนามาต่อยอดสร้างแอปพลิเคชันที่เน้นการวิเคราะห์ข้อมูล เช่น แดชบอร์ดที่อัปเดตแบบเรียลไทม์ (RTD: Real Time Dashborad)
  • ข้อมูลสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา (RTUI: Real Time User Interactive ):  เพื่อให้แอปพลิเคชันสามารถตอบสนองต่อการกระทำของผู้ใช้ เช่น การคลิกหรือการเลือกค่าจากเมนู ผ่านกระบวน Callback ต่างๆ 
  • นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันที่ซับซ้อนโดยไม่ต้องมีความรู้ด้าน JavaScript, HTML, หรือ CSS โดยตรง
  • ปรับแต่งได้สูง User: แม้จะใช้งานง่าย แต่ก็มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับแต่งให้ตรงตามความต้องการทางธุรกิจได้
  • ใช้งานง่าย: มีคอมโพเนนต์ (components) ที่สร้างไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก ทำให้เริ่มต้นและเรียนรู้ได้ง่าย 

องค์ประกอบของ Dash framwork for python 

องค์ประกอบหลักของ Dash framework for Python มีดังนี้: 
  1. Dash Library: เป็นไลบรารีหลักที่ใช้ในการสร้างแอปพลิเคชัน Dash ซึ่งทำหน้าที่เริ่มต้นแอปพลิเคชันและเป็นตัวเชื่อมระหว่างองค์ประกอบต่างๆ เช่น pandas seaborn matplotlib อื่นๆ
  2. Dash HTML Components (dash.html): เป็นโมดูลที่ให้คุณสามารถสร้างเค้าโครง (layout) ของแอปพลิเคชันโดยใช้แท็ก HTML ผ่านการเขียนโค้ด Python ตัวอย่าง: html.Div, html.H1, html.Img
  3. Dash Core Components (dash.dcc): เป็นชุดคอมโพเนนต์แบบอินเทอร์แอกทีฟขั้นสูง เช่น แผนภูมิ, Dropdown, Slider, Input, และอื่น ๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้โต้ตอบกับแอปพลิเคชันได้ ตัวอย่าง: dcc.Graph สำหรับแสดงผลแผนภูมิจาก Plotly, dcc.Dropdown สำหรับสร้างเมนูเลื่อนลง
  4. Plotly.js: เป็นไลบรารีกราฟิกของ JavaScript ที่ Dash ใช้ในการแสดงผลแผนภูมิและกราฟต่างๆ ผู้ใช้สามารถสร้างแผนภูมิแบบโต้ตอบได้ด้วยการเขียนโค้ด Python โดยไม่ต้องเขียน JavaScript
  5. Flask: เป็นเฟรมเวิร์กเว็บเซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็กของ Python ที่ Dash สร้างขึ้นมา โดยทำหน้าที่จัดการการสื่อสารระหว่างเบราว์เซอร์และโค้ด Python
  6. React.js: เป็นไลบรารี JavaScript ที่ Dash ใช้ในการจัดการและอัปเดตองค์ประกอบของหน้าเว็บอย่างมีประสิทธิภาพ
  7. Callbacks: เป็นฟังก์ชัน Python ที่ช่วยให้แอปพลิเคชัน Dash เป็นแบบไดนามิกและโต้ตอบได้ โดยจะเชื่อมโยงอินพุตของผู้ใช้ (เช่น การคลิกปุ่ม, การเลือกเมนู) กับการอัปเดตเอาต์พุต (เช่น การแสดงผลแผนภูมิที่เปลี่ยนไป)
  8. Component Libraries เพิ่มเติม: นอกจาก Core Components แล้ว ยังมีไลบรารีอื่นๆ ที่พัฒนาโดยชุมชนเพื่อเพิ่มความสามารถในการออกแบบและการใช้งาน เช่น
  9. Dash Bootstrap Components: สำหรับการสร้างเค้าโครงแอปพลิเคชั่น Layout ที่สวยงามและตอบสนองได้ดีด้วยระบบ Bootstrap CSS
  10. Dash Mantine Components: อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสไตล์การออกแบบที่ทันสมัย 

เริ่มต้นใช้งาน Dash framwork for python 

  1. ติดตั้ง python  โหลด
  2. ติดตั้ง dash, pandas ด้วยคำสั่ง pip install dash 
  3. สร้างไฟล์ ชื่อ app.py เพื่อทดสอบโค้ดดังนี้


Python Code จะมี 5 ขั้นตอน ได้แก่ 
1. เรียกใช้งานไลบารี่  ด้วยคำสั่ง from dash import dash, html
2. เรียกข้อมูลจากแหล่งต่างๆ  เข้าสู่ Data Frame ด้วยคำสั่ง df = read_csv()
3. การเรียก Dash มาใช้งาน  ด้วยคำสั่ง app = Dash()
4. จัด Layout  ใช้คำสั่ง app.layout = [html.Div()]
และ5. ทำการรัน  app.run(debug=True)





ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

SaaS API-Base Definition, Benefits, Challenges, Problems and Goal for Innovation

What is an Application Programming Interface? API is a set of protocols, standards, and tools that allow two or more software applications to connect and share specific data. API  What is API-Base Saas? API-based SaaS is a software application hosted in the cloud. Users and other programs can access the software’s features, data, and functions via an API instead of a user interface. API refers to the software delivery model as a SaaS Application's functionalist and features are exposed and made to customers through APIs. This combination of the business model of technology on a cloud-base.   This is an integration Service on the cloud provider The Benefits of API-Base SaaS User Experience  Simplifies Development  Increases Accessibility Flexible and Scalable  The Challenges of API-Base SaaS Startup Performance  Integration  Security Pricing What’s The Difference Between SaaS And An API? RPC APIs.  WebSocket APIs. SOAP APIs. REST APIs. The Too...

Interactive เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุค Metaverse

เทคโนโลยี Interactive คืออะไร คำนิยามของ เทคโนโลยี Interactive ที่สร้างและพัฒนาขึ้นสำหรับโปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นที่เป็น Real-Time เรียกง่ายๆว่า Real-Time Programming (RTP) โดยเน้นไปยังผู้ใช้หรือมนุษย์นั้นเอง จะประกอบไปด้วย 2 องค์ประกอบ คือ ส่วนแรก เทคโนโลยี Interactive เข้าทำการเปลี่ยนแปลรูปร่าง ขนาด และรูปแบบ ซึ่งมาจาก web service อุปกรณ์ sensor ผ่านคอมพิวเตอร์ และมือถือ เป็นผสมผสานระหว่างระบบดิจิทัลและแอนนาล๊อกเข้าด้วยกัน ผ่านปุ่ม สไลด์เดอร์ หรือสวิทซ์ เพื่อการควบคุมในส่วนควบคุมทั้งหมด ที่เรียกว่า Control panel  ส่วนที่ 2  แอพลิเคชั่นที่ทำงานแบบ Real Time Application ถูกออกแบบในแนวคิดหลักของเทคโนโลยี Real Time  อ้างอิง https://interactiveimmersive.io/blog/beginner/02-interactive-technology/ เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบที่เน้นการสร้างต้นแบบที่เร็วขึ้น มีประโยชน์อย่างมากในแอปพลิเคชันและประสบการณ์การสร้างต้นแบบ  ประเภทของเทคโนโลยี Interactive  มี 6 ประเภท 1. IoT เป็นแนวคิดจะเปลี่ยนบริการทุกบริการให้อยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพลิเคชั่นทุกแอ...