ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

TomCat7 สำหรับติดตั้ง แก้ไข คอนฟิก ใช้งาน JSP

Apache Tomcat เป็น  HTTP Server ที่มีความสามารถนำภาษาจาวามาใช้งานได้  สามารถใช้เทคโนโลยีของภาษาจาวาที่เรียกว่า Java Servlet  และ Java Server Page (JSP)  Tomcat เป็นโปรแกรม Open-Source  อยู่ภายใต้การดูแลของ Apache Software Foundation  (ซึ่งเป็นผู้สร้าง Apache HTTP Server ที่เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย)  สามารถอ่านรายละเอียดของ Tomcat ได้ที่  http://tomcat.apache.org  โดยเลือกหัวข้อ “ Documentation”  และเลือก “Tomcat 7.0” ขั้นตอนการติดตั้ง Tomcat เรียงลำดับดังนี้

ติดตั้ง Tomcat

สร้างโฟลเดอร์ ชื่อ WebSite  ไว้ที่ไดรว์ใดก็ได้ ( ในที่นี้คือ \WebProject) แตกไฟล์ apache-tomcat-7.0.xx.zip ในโฟลเดอร์นี้  ไฟล์ต่าง ๆ ของ Tomcat จะอยู่ภายใต้  “c:\WebProject\apache-tomcat-7.0.23”  เพื่อความง่ายในการพิมพ์และอ้างถึง จึงเปลี่ยนขื่อโฟลเดอร์ให้สั้นลงดังนี้ “c:\WebProject\tomcat7” ใส่เลข 7 หลัง tomcat เพื่อให้รู้ว่าเวอร์ชันที่ใช้อยู่นี้คือรุ่นที่ 7 ในอนาคตเพื่อจะติดตั้งเวอร์ชัน 8 หรือ 9  หรือจะติดตั้งเวอร์ชันย้อนหลังก็สามารถที่จะใส่ไว้ในโฟลเดอร์เดียวกันนี้ได้

การกำหนดค่าให้ server.xml

 ใช้ text editor อาจจะเป็น notepad หรือ editplus หรือ notepad++  หรือ textPad  เปิดไฟล์ server.xml
กรณีที่ต้องการแก้ไข TCP port : เราสามารถเปลี่ยนตัวเลขพอร์ต ที่ใข้ในการเชื่อมต่อกับ server เป็นเลขอื่น โดยปกติโปรแกรมจะเซตค่าไว้ที่พอร์ต 8080  เราอาจเปลี่ยนเป็น พอร์ต 80 ถ้า web server ของเรามีแค่ tomcat เพียง server เดียว ปกติพอร์ต 80 นี้ใช้กับ Apache web server  หรือ IIS ของไมโครซอฟต์ ซึ่งจะเป็น  web server หลัก
ตัวเลขพอร์ต จะต้องไม่ไปชนกับพอร์ตของอุปกรณ์อื่น ๆ ยึดครองใช้อยู่ เพื่อความปลอดภัย เรามักจะใช้เลขพอร์ตที่มีค่าระหว่าง 1024 ถึง 65535 ซึ่งรับประกันได้ว่าไม่ไปชนกับพอร์ตของอุปกรณ์ใด (ในการติดตั้งครั้งนี้ เราจะยังคงใช้พอร์ต 8080 ตามที่ค่าที่กำหนดไว้ เพราะจะติดตั้ง Apache web server ซึ่งใช้พอร์ต 80 ด้วย จึงไม่ต้องแก้ไขสิ่งใดในไฟล์ server.xml นี้)


กำหนดค่าให้ web.xml 

กรณีต้องการให้ แสดง รายการของ directory เป็นแบบ list  ถ้าโฟลเดอร์นั้นไม่มี welcome fie (index.html, index.jsp) server จะแสดงชื่อไฟล์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในไดเรกทอรีนั้น  แต่มีคำเตือนเขียนไว้ใน web.xml ว่าการเปิดใช้งานกรณีนี้จะทำให้ server ทำงานช้าลงและสิ้นเปลืองทรัพยากรของระบบ

กำหนดค่า context.xml

ในระหว่างการศึกษาหรือทดลอง เราอาจต้องเปลี่ยนแปลงค่าใน  Web.xml   เช่น เพิ่มโปรแกรม  class file หรือเพิ่ม servlet เข้าไปในระบบ การทำเช่นนี้แต่ละครั้งจะต้องให้ Tomcat server รับทราบการเปลี่ยนแปลง ทำได้โดย restart server ใหม่ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ไม่สะดวกในการทำงาน  เราจึงกำหนดให้ Tomcat รับรู้การเปลี่ยนแปลงโดยอัตโนมัติและให้ทำการ reload ตัวมันเอง โดยที่เราไม่ต้องไป restart ใหม่  โดยการแก้ไขคุณสมบัติ reloadable จาก false เป็น true

ข้อพึงระวัง

  • Tomcat server นั้นมีคุณสมบัติเป็นcase sensitive  หมายถึงอักษรตัวใหญ่และตัวเล็กจะมองเห็นแตกต่างกัน เช่น "http://localhost:8080/testServle" กับ "http://localhost:8080/TestServlet"  จะมองเห็นแตกต่างกัน เพราะ test กับ Test ถึงแม้จะต่างกันเพียงเป็นตัวอักษรตัวใหญ่และตัวเล็ก server จะมองเห็นไม่เหมือนกัน
  • การกดปุ่ม F5 เป็นการ refresh หน้าจอ บางครั้ง browser นำผลลัพธ์ที่ได้จาก cache มาแสดง ถ้าต้องการให้ browser ดาวน์โหลดข้อมูลจากเว็บไซต์ใหม่จริง ๆ  ให้กดปุ่ม Ctrl + F5
  • ถึงแม้เราจะแก้ไข reloadable=true ใน context.xml แล้วก็ตาม บางครั้งเราควร restart server และควรปิด browser แล้วเปิดใหม่ เพื่อล้าง cache ของบราวเซอร์ด้วย


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

SaaS API-Base Definition, Benefits, Challenges, Problems and Goal for Innovation

What is an Application Programming Interface? API is a set of protocols, standards, and tools that allow two or more software applications to connect and share specific data. API  What is API-Base Saas? API-based SaaS is a software application hosted in the cloud. Users and other programs can access the software’s features, data, and functions via an API instead of a user interface. API refers to the software delivery model as a SaaS Application's functionalist and features are exposed and made to customers through APIs. This combination of the business model of technology on a cloud-base.   This is an integration Service on the cloud provider The Benefits of API-Base SaaS User Experience  Simplifies Development  Increases Accessibility Flexible and Scalable  The Challenges of API-Base SaaS Startup Performance  Integration  Security Pricing What’s The Difference Between SaaS And An API? RPC APIs.  WebSocket APIs. SOAP APIs. REST APIs. The Too...

Interactive เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุค Metaverse

เทคโนโลยี Interactive คืออะไร คำนิยามของ เทคโนโลยี Interactive ที่สร้างและพัฒนาขึ้นสำหรับโปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นที่เป็น Real-Time เรียกง่ายๆว่า Real-Time Programming (RTP) โดยเน้นไปยังผู้ใช้หรือมนุษย์นั้นเอง จะประกอบไปด้วย 2 องค์ประกอบ คือ ส่วนแรก เทคโนโลยี Interactive เข้าทำการเปลี่ยนแปลรูปร่าง ขนาด และรูปแบบ ซึ่งมาจาก web service อุปกรณ์ sensor ผ่านคอมพิวเตอร์ และมือถือ เป็นผสมผสานระหว่างระบบดิจิทัลและแอนนาล๊อกเข้าด้วยกัน ผ่านปุ่ม สไลด์เดอร์ หรือสวิทซ์ เพื่อการควบคุมในส่วนควบคุมทั้งหมด ที่เรียกว่า Control panel  ส่วนที่ 2  แอพลิเคชั่นที่ทำงานแบบ Real Time Application ถูกออกแบบในแนวคิดหลักของเทคโนโลยี Real Time  อ้างอิง https://interactiveimmersive.io/blog/beginner/02-interactive-technology/ เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบที่เน้นการสร้างต้นแบบที่เร็วขึ้น มีประโยชน์อย่างมากในแอปพลิเคชันและประสบการณ์การสร้างต้นแบบ  ประเภทของเทคโนโลยี Interactive  มี 6 ประเภท 1. IoT เป็นแนวคิดจะเปลี่ยนบริการทุกบริการให้อยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพลิเคชั่นทุกแอ...