ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การแก้ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ (Computer Solving) คืออะไร มีขั้นตอนอย่างไร นำไปใช้ประโยชน์อย่างไร

 การแก้ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ (Computer Solving) คือ


    "การแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง รวดเร็ว มีขั้นตอนที่ดี ลดการใช้ทรัพยากรและมีประสิทธิภาพเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งในยุคนี้"


บทนำ

บทความนี้ได้ทำการรวบรวม เรียบเรียง วิเคราะห์ จากแหล่งต่างๆ เพื่อให้สร้างความเข้าใจเบื้องต้นให้สามารถได้ตัวแบบและนำไปใช้งานในการแก้ไขปัญหาทางคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้อธิบายถึงการแก้ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ ประเภทของปัญหาทางคอมพิวเตอร์ กระบวนการแก้ไขปัญหา หลักการแก้ไขปัญหา วิธีวิเคราะห์ปัญหา เครื่องมือที่ใช้ และโครงสร้างการแก้ไขปัญหา 

การแก้ปัญหาทางด้านคอมพิวเตอร์ (Computer Solving) คือ การนำกระบวนการทางเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนการทางคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน หรือของหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหา อย่างมีกระบวนการขั้นตอน 4 ขั้นตอน อันได้แก่ 1. รวบรวมปัญหา 2. วิเคราะห์และออกแบบ 3. หาวิธีการและปฏิบัติการ 4. ทดสอบนำไปใช้ ในบทความนี้จะเน้นไปทางการแก้ไขปัญหาด้วยขั้นตอนวิธี และการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 

การแก้ปัญหาทางคอมพิวเตอร์มีอะไรบ้าง

  1. ปัญหาทางฮาร์ดแวร์ เช่น อุปกรณ์ สาย สภาพแวดล้อม พลังงาน โครงสร้างติดตั้งฮาร์ดแวร์ รูปแบบที่นำมาใช้งาน
  2. ปัญหาทางซอฟต์แวร์ ได้แก่ ระบบปฏิบัติการ OS , โปรแกรมใช้งาน, โปรแกรมเฉพาะด้าน, โปรแกรมที่พัฒนาขึ้นเอง 
  3. ปัญหาทางบุคลากร ได้แก่ ผู้บริหาร พนักงานไอที โปรแกรมเมอร์ ระบบเครือข่าย และผู้ปฏิบัติงาน
  4. ปัญหาทางกระบวนการขั้นตอนภายในงาน การเรียงลำดับขั้นตอนใช้เงื่อนไขการตัดสินใจ การวนซ้ำของกระบวนการ 
  5. ปัญหาของโครงสร้างองค์กร  เช่น การมอบหมาย ความรับผิดชอบ การอนุมัติ และการตรวจสอบ 
  6. ปัญหาอื่นๆ เช่น

กระบวนการแก้ปัญหา (Problem solving process)

  1. การระบุปัญหา ได้แก่ นิยามของปัญหา ขอบเขตที่ได้รับผลกระทบ ความสัมพันธ์ของการเกิดปัญหา เป็นต้น
  2. การวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา
  3. การรวบรวมปัญหา
  4. การจัดการและแก้ไขปัญหา
  5. การติดตามผลลัพธ์
  6. การสร้างความร่วมือและการเรียนรู้ภายในทีม

หลักการแก้ไขปัญหา

  1. หลักการแก้ปัญหาตามวิธีวิทยาศาสตร์ ( Scientific method solving )
  2. หลักการแก้ปัญหาตามวิธีการทางวิศวกรรม ( Engineering problem solving )
  3. วิธีการแก้ปัญหาแบบสร้างสรรค์ ( Creative problem solving )
  4. การแก้ปัญหาด้วยกระบวนการทางเทคโนโลยีสารสนเทศ  (Information Technology solving)
  5. เครื่องมือในการวิเคราะห์ขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา (Tools and Algorithm solving)

เครื่องมือที่ใช้ในการออกแบบและขั้นตอนวิธีในการแก้ปัญหา

  1. การอธิบายด้วยการบรรยาย ด้วยข้อความ เป็นภาพรวมหรือ เป็นขั้นเป็นตอน เพื่ออธิบายสิ่งที่คิดไว้เบื้องต้น
  2. จัดทำเป็นตาราง ความสัมพันธ์ของปัญหา เพื่อความเข้าใจของปัญหาที่เกิดขึ้น และสร้างแนวทางการแก้ไขปัญหา ให้สะดวกต่อการเข้าใจ และนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาด้วยรูปแบบอื่นๆ 
  3. การสร้างโมเดล เพื่อให้เห็นภาพกรอบการแก้ไขปัญหา โดยเขียนเป็นรูปภาพอย่างง่ายๆ การเชื่อมโยงต่างๆ 
  4. ผังงานต่างๆ นำสัญลักษณ์ต่างๆ มาประกอบกันเพื่อให้สามารถอธิบายการแก้ไขปัญหา เป็นขั้นเป็นตอน สร้างความเข้าใจให้ตรงกัน
  5. รหัสเทียม 
  6. ภาษาคอมพิวเตอร์ ได้แก่ ภาษาระดับต่ำ ภาษาระดับกลาง และภาษาระดับสูง

โครงสร้างการแก้ไขปัญหา มี 3 วิธี คือ

  1. โครงสร้างแบบเรียงลำดับ
  2. โครงสร้างแบบทางเลือก
  3. โครงสร้างแบบทำงานซ้ำ

บทสรุป

ปัญหาทางคอมพิวเตอร์ มีหลายด้าน จึงจำเป็นต้องนำมาศึกษาและวิเคราะห์ เพื่อให้ได้เครื่องมือในการแก้ปัญหา เพื่อให้สามารถที่จะสร้างความเข้าใจ และแก้ปัญหานั้นๆ ให้รวดเร็ว ถูกต้อง มีประสิทธิภาพ 

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

SaaS API-Base Definition, Benefits, Challenges, Problems and Goal for Innovation

What is an Application Programming Interface? API is a set of protocols, standards, and tools that allow two or more software applications to connect and share specific data. API  What is API-Base Saas? API-based SaaS is a software application hosted in the cloud. Users and other programs can access the software’s features, data, and functions via an API instead of a user interface. API refers to the software delivery model as a SaaS Application's functionalist and features are exposed and made to customers through APIs. This combination of the business model of technology on a cloud-base.   This is an integration Service on the cloud provider The Benefits of API-Base SaaS User Experience  Simplifies Development  Increases Accessibility Flexible and Scalable  The Challenges of API-Base SaaS Startup Performance  Integration  Security Pricing What’s The Difference Between SaaS And An API? RPC APIs.  WebSocket APIs. SOAP APIs. REST APIs. The Too...

Interactive เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบเปลี่ยนโลกเข้าสู่ยุค Metaverse

เทคโนโลยี Interactive คืออะไร คำนิยามของ เทคโนโลยี Interactive ที่สร้างและพัฒนาขึ้นสำหรับโปรแกรมหรือแอพลิเคชั่นที่เป็น Real-Time เรียกง่ายๆว่า Real-Time Programming (RTP) โดยเน้นไปยังผู้ใช้หรือมนุษย์นั้นเอง จะประกอบไปด้วย 2 องค์ประกอบ คือ ส่วนแรก เทคโนโลยี Interactive เข้าทำการเปลี่ยนแปลรูปร่าง ขนาด และรูปแบบ ซึ่งมาจาก web service อุปกรณ์ sensor ผ่านคอมพิวเตอร์ และมือถือ เป็นผสมผสานระหว่างระบบดิจิทัลและแอนนาล๊อกเข้าด้วยกัน ผ่านปุ่ม สไลด์เดอร์ หรือสวิทซ์ เพื่อการควบคุมในส่วนควบคุมทั้งหมด ที่เรียกว่า Control panel  ส่วนที่ 2  แอพลิเคชั่นที่ทำงานแบบ Real Time Application ถูกออกแบบในแนวคิดหลักของเทคโนโลยี Real Time  อ้างอิง https://interactiveimmersive.io/blog/beginner/02-interactive-technology/ เทคโนโลยีเชิงโต้ตอบที่เน้นการสร้างต้นแบบที่เร็วขึ้น มีประโยชน์อย่างมากในแอปพลิเคชันและประสบการณ์การสร้างต้นแบบ  ประเภทของเทคโนโลยี Interactive  มี 6 ประเภท 1. IoT เป็นแนวคิดจะเปลี่ยนบริการทุกบริการให้อยู่บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับแอพลิเคชั่นทุกแอ...